~Review Juice Beauty Organics to Clear Skin~

ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Juice Beauty ใช้น้ำผลไม้ออร์แกนิค 100% มากกว่า 30 ชนิด เป็นส่วนประกอบหลัก   ซึ่งจากการวิจัยพบว่าน้ำผลไม้ออร์แกนิคมีคุณค่าบำรุงมากกว่าน้ำผลไม้ธรรมดาถึง 50% ในน้ำผลไม้มีคุณค่าบำรุงจากวิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์ Juice Beauty สามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวได้สูงถึง 85%

ชุดนี้แม่ค้าใช้เองมา 3 ชุดแล้วค่ะ สำหรับตัวแม่ค้าเองได้ยินเสียงร่ำลือถึง Juice Beauty และอยากลองมานาน มาสบโอกาสตอนเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบที่เห่อมาเต็มหน้าเพราะนอนดึกติดๆ กันหลายวัน พอกลับตัวได้เข้านอนเร็วขึ้น สภาพผิวหน้าก็ไม่ไหวแล้ว สิวอุดตันเต็มช่วงคางและสองข้างแก้ม สิวอักเสบก็ขึ้นรายวันเลยค่ะ ใช้ชุดรักษาสิวที่เคยใช้มาประจำก็เอาไม่อยู่แล้ว ตัดใจลองสอยชุดนี้มาใช้ดู ตัวเด็ดสุดในชุดนี้ ที่ช่วยเรื่องปัญหาสิวก็คือ Blemish Clearing Serum เริ่มใช้ 2-3 วันแรก รู้สึกว่าผิวสงบขึ้น สิวอุดตันก็ไม่ปะทุอักเสบใหม่ขึ้นมาอีก ใช้ไปได้ 2 อาทิตย์ ผิวหน้าเริ่มดีขึ้น หน้าเริ่มกระจ่างขึ้นนิดนึงค่ะ ใช้มาครบเดือน สิวอุดตันก็เริ่มน้อยลง แล้วก็ไม่ค่อยขึ้นมาใหม่อีก ส่วนผิวหน้าก็รู้สึกแข็งแรงขึ้นค่ะ ดูใสๆ ขึ้นมา ตอนนี้ก็เลยใช้ประจำ สลับเช้าเย็นกับเครื่องสำอางค์ตัวอื่นๆ ที่อยากลองค่ะ คือใช้ชุดนี้เพื่อประคองให้หน้าแข็งแรงอยู่เสมอ คอยป้องกันการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ

ดูรายละเอียดและวิธีใช้ของแม่ค้าเพิ่มเติมตามขั้นตอนนี้ได้เลยค่ะ

วิธีใช้ชุด Organics to Clear Skin ของแม่ค้านะคะ

1) ใช้ Cleansing Gel ล้างหน้าให้สะอาด (เจลล้างหน้านี้ ตัวโปรดของแม่ค้าเลยค่ะ ล้างแล้วหน้านุ่ม ล้างออกง่าย ไม่รู้สึกว่ามีอะไรมาเคลือบหน้า แล้วก็หน้าไม่แห้งตึง ไม่รู้สึกเอี๊ยดอ๊าดหลังล้างหน้า กลิ่นเหมือนผลไม้หมักค่ะ บางคนอาจว่าไม่ค่อยหอมนะคะ แต่ก็เป็นกลิ่นแบบธรรมชาตินะคะไม่ปรุงแต่ง ไม่ผสมน้ำหอม ให้ความรู้สึกว่าเอาน้ำผลไม้จริงๆ มาล้างหน้าเลยค่ะ)

ถ้าเป็นช่วงเย็น วันไหนแต่งหน้าใช้ครีมรองพื้นจะใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางออกก่อน 1 รอบ แล้วค่อยล้างด้วย Cleansing Gel ตามปกติค่ะ แต่ช่วงที่เป็นสิวไม่ได้ใช้ครีมรองพื้นหรือแต่งหน้ามาก ก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางซัก 2-3 ใช้ทีค่ะ เพื่อล้างพวกสารตกค้างจากครีมกันแดดค่ะ (จริง ๆ แล้วแม่ค้าขี้เกียจค่ะ ถ้าขยันล้างได้ทุกวันจะดีมากนะคะ เพราะครีมกันแดดไม่ว่าจะแบบ chemical หรือ physical ยิ่งค่า spf สูงๆ ก็ยิ่งพยายามทำให้เนื้อครีมหรือโลชั่นเกาะหน้าเราและก็จะตกค้างบนหน้าเราได้มาก และก็จะทำให้เป็นสิวอุดตันกันต่อไปค่ะ)

2) ตามด้วย Toner (ใช้ของอะไรก็ได้ค่ะ เลือกดูตามยิ่ห้อที่ชื่นชอบ สำหรับคนที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ก็ลองดู Toner ที่เป็นแบบไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ)

3) Blemish Clearing Serum ใช้หยดนิดเดียวค่ะ เอาปลายนิ้วแตะแล้วไปนวดวนเบาๆ ตรงหัวสิวอักเสบ และบริเวณที่มีสิวอุดตันเยอะๆ ค่ะ (เช้าไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหน้านะคะ เพราะตัว Blemish Clearing Serum จะเหนอะหน้า ถ้าใช้เยอะนะคะ) รอซัก 1 นาทีให้ serum ซึมเข้าหน้าและแห้งดีค่อยตามด้วยบำรุงค่ะ

ช่วงเย็น คือจะนอนแล้ว ไม่กลัวหน้ามันหน้าเหนอะแล้ว แม่ค้าจะหยด Serum บนฝ่ามือเยอะหน่อย (เยอะกว่าตอนเช้า 1-2 เท่า) เหมือนเดิมค่ะ อันดับแรกก็จะใช้ปลายนิ้วแตะแล้วนวดตรงที่เป็นสิวอักเสบ บริเวณสิวอุดตัน จากนั้น สำหรับ serum ที่เหลือให้ถูฝ่ามือเข้าด้วยกันซัก 1 นาที แล้วเอาไปนวดต่อให้ทั่วทั้งหน้าค่ะ รอ 1 นาทีให้ซึมเข้าหน้าแล้วตามด้วยครีมบำรุงค่ะ

4) Oil-Free Moisturizer  เป็นครีมบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวมันแต่ไม่ทำให้หน้ามันเลยค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ เวลาใช้บีบบนฝ่ามือแล้ว ถูฝ่ามือสองข้างเข้าหากันแล้วค่อยไปทาบนใบหน้าค่ะ จะค่อยๆ ประคบเอาก็ได้นะคะ (ทาต่อจาก Serum ช่วงแรกจะเป็นเหมือนครีมขาวๆ บนหน้า พอแห้งแล้วจะหายขาว ซึมเข้าผิวไปเองค่ะ)

5) ครีมกันแดด (ใช้ของอะไรก็ได้ค่ะที่ถูกใจ เลือกให้เหมาะกับผิวเราค่ะ) อันนี้สำคัญมากนะคะ เมืองร้อนที่มีแสงแดดร้อนแรงอย่างเราต้องทาครีมกันแดดให้เป็นประจำ จะช่วยทั้งเรื่องริ้วรอย และ ทำให้รอยดำจากสิวจางเร็วขึ้น เพราะจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ให้เม็ดสีคล้ำขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผลจากสิวค่ะ

***ผล จากการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับผิวหน้าและวิธีดูแลผิวของแต่ละท่านด้วยนะคะ ผิวของแต่ละคนแตกต่างกันไป การตอบสนองและผลที่ได้จากผลิตภัณฑ์ก็แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ที่ดีจะเป็นตัวช่วยถนอมผิวหน้าให้สดใสอ่อนเยาว์ไปได้นานๆ ค่ะ ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนดึกทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน และทำให้ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสิวอุดตันสิวอักเสบค่ะ